Translate

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556

นักวิทยาศาสตร์คนแรกของโลก

โดยทั่ว ๆ ไปในวงการวิทยาศาสตร์ เมื่อกล่าวถึงนักวิทยาศาสตร์คนแรก ของโลกแล้ว ก็มักจะกล่าวถึง เทลีส (Theles) นัก ปราชญ์และนักวิทยาศาสตร์ชาวกรีก ผู้มีชีวิตอยู่ระหว่างปี 624 ถึงปี 546 ก่อนคริสตศักราช แต่ก่อนยุคสมัยของเทลีสถึงกว่าสองพันปี มีบุคคลสำคัญ สำหรับวงการ วิทยาศาสตร์อีกคนหนึ่ง ซึ่งน่าจะได้รับการยกย่องเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกของโลก เขาคือ อิมโฮเทป (Imhotep) ประวัติชีวิตส่วนตัวของอิมโฮเทปไม่เป็นที่ทราบกัน เท่าที่ทราบจากหลักฐาน โบราณคดี มีเพียงว่า เขาเป็น ชาวอียิปต์ เป็นที่ปรึกษาขององค์ฟาโรห์โซเซอร์ แห่งอียิปต์ ผลงานที่ทำให้เขาน่าจะได้รับการยกย่อง เป็นนักวิทยาศาสตร์ คนแรกของโลก คือ เขาเป็นคนออกแบบ และควบคุมการสร้าง พีระมิดแบบขั้นบันได ที่หมู่บ้านซักคาราใกล้ ๆ กับเมืองเมมฟีส ของอียิปต์โบราณ นอกเหนือไปจากผลงานที่แน่ชัด เกี่ยวกับ พีระมิดแล้ว อิมโฮเทปก็ได้รับการยกย่องว่า มีความรู้ใน ด้านต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางด้าน การแพทย์โบราณ จนกระทั่งได้รับการยกย่อง โดยชาวกรีก รุ่นต่อมาว่า เป็นเสมือนหนึ่งเทพเจ้าแห่งการแพทย์ ทีเดียว อิมโฮเทป เกิดและตายเมื่อไร ไม่มีหลักฐานปรากฏแน่ชัด เท่าที่ทราบกันคือ ช่วงที่เขามีผลงานเด่นมาก เป็นช่วงระหว่างปี 2980 ถึง 2950 ก่อน คริสตศักราช หลังจากที่อิมโฮเทปถึงแก่กรรมไปแล้ว ก็ไม่ปรากฏมีคนเก่งในระดับที่สมควรจะได้รับ การยกย่อง เป็นนักวิทยาศาสตร์ของโลกอีกเลย เป็นเวลานานกว่าสองพันปี จนกระทั่งถึงคนเก่งที่ชื่อ เทลีส ดังนั้นโดยสรุปแล้ว ผู้ที่สมควรจะได้รับการยกย่อง เป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรก ของโลก จึงน่าจะเป็น "อิมโฮเทป" แต่ถ้าจะต้องมีการอ้างอิงหลักฐาน ตลอดจนความ น่าเชื่อถือของหลักฐานแล้ว ผู้ที่สมควรจะได้รับการยกย่องเป็น นักวิทยาศาสตร์ คนแรกของโลกควรจะเป็น "เทลีส"

วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ฟัลคาเนลลี (Fulcanelli)

          นักเล่นแร่แปรธาตุผู้เต็มไปด้วยปริศนามากมายที่ไม่เคยมีใครสามารถเปิดเผยหรือล่วงรู้ความจริงมาก่อนทั้งเรื่องส่วนตัวและชีวิตการทำงาน มีเพียงเรื่องเล่าขานที่กล่าวกันมา ซึ่งเรื่องที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงมากที่สุดก็คือ การที่เขาสามารถทำให้ตะกั่วจำนวน 100 กรัมกลายเป็นทองคำได้ โดยใช้ผงสูตรพิเศษที่เขาได้รับการถ่ายทอดวิชามาจากอาจารย์

          นอกจากนี้เขายังมีความรู้ในเรื่องของอาวุธนิวเคลียร์ด้วย โดยเขาได้อธิบายหลักการ ขั้นตอน และวิธีการผลิตอย่างละเอียดให้กับนักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งฟังพร้อมทั้งยังทราบว่าอีกไม่นานมนุษย์ในโลกอนาคตจะมีการนำนิวเคลียร์มาใช้เป็นอาวุธต่อสู้ในศึกสงคราม

          ที่มาของเขามีเพียงคำบอกเล่าของลูกศิษย์เท่านั้น ที่กล่าวถึงอาจารย์ผู้เก่งกาจว่า เขาได้เดินทางไปยังปราสาทที่ตั้งอยู่บนเขาสูงในประเทศสเปนเพื่อพบกับคนสำคัญคนหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยมีใครได้พบเห็นอีกเลย และไม่แน่ใจด้วยว่าเขาลาจากโลกนี้ไปแล้ว หรือใช้ชีวิตอยู่อย่างคนอมตะไปตลอดกาล
เคาท์ เซนต์ เกอร์แมน (Comte St Germain)
          ข้าราชสำนักผู้นี้มีความสามารถอันหลากหลายทั้งศาสตร์และศิลป์ในฝรั่งเศส เพราะเขาเป็นทั้งข้าราชการ นักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ นักไวโอลิน และนักประพันธ์มือสมัครเล่น ในขณะเดียวก็ยังเป็นบุคคลลึกลับของโลกด้วย ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่รู้จักกันเป็นอย่างดีในนาม Der Wundermann หรือวันเดอร์แมน โดยเขาปรากฏตัวและหายไปอย่างลึกลับ มีเพียงบันทึกเกี่ยวกับตัวเขาที่ถูกเขียนขึ้นในปีค.ศ. 1745 ที่สามารถนำมาใช้ยืนยันการมีอยู่ของเขาได้เท่านั้น ซึ่งเนื้อหาภายในนั้นกล่าวว่า เขาเข้ามาอาศัยอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสประมาณ 2 ปี ทั้งในระหว่างนั้นก็ไม่เคยเปิดเผยประวัติของตัวเองให้ใครทราบเลย รู้แค่เพียงว่าเป็นคนเก่งที่หาตัวจับได้ยากคนหนึ่ง และมั่นใจว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาสามัญชนทั่วไปอย่างแน่นอน แต่อาจจะเป็นเชื้อพระวงศ์ หรือสายลับที่ถูกส่งตัวมายังฝรั่งเศสก็มิอาจล่วงรู้ที่มาที่ไปของคนผู้นี้ได้ 

วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556

                                                            หอเอนที่หยุดแล้ว(สิ่งลี้ลับ)
หอเอนปีซาสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1173 เริ่มเอียงเพราะพื้นดินด้านหนึ่งอ่อนนุ่มมาก  รัฐบาลอิตาลีเคยทำการบูรณะครั้งใหญ่เพื่อป้องกันการถล่มการซ่อมแซมตลอดสิบปีสิ้นสุดลงเมื่อ ปี ค.ศ.2001 ผู้เชี่ยวชาญได้ประกาศว่าหอเอนปีซาจะไม่เอนไปกว่าเดิมอีกแล้วและจะยืนหยัดอย่างมั่นคงปลอดภัยไปได้อีกราว 300 ปี

วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

                                                          สิ่งมีชีวิตเทียม(สิ่งลี้ลับ)
โฮมูนคูลัส  คือมนุษย์เทียมที่นักเล่นแร่แปรธาตุในยุคกลางสร้างตัวขึ้นเอกสารบันทึกถึง โฮมูนคูลัสครั้งแรกไว้ว่า พาราเซลซัส  นักเคมีและนักเล่นแร่แปรธาตูชื่อดัง  สร้าง โฮมูนคูลัสขนาด 30 เซนติเมตรขึ้นมาสำเร็จ
                                            หรือจะเป็นสุสานของเชื้อพระวงศ์(สิ่งลี้ลับ)
สโตเฮนจ์เป็นคำที่มีความหมายว่า หินที่วางพาดในอากาศ ปริศนาที่คนยุคปัจจุบ้นหาคำตอบไม่ได้ก็คือว่าคนโบราณเคลื่อนย้ายแทงหินที่สูง  8 เมตรและหนัก 25-50 ตัน มาวางพาดกันได้อย่างไร  และทำแบบนั้นไปดพื่ออะไร  ไม่นานมานี้ได้มีการยืนยันจากนักโบราณคดีชาวอังกฤษว่า  สโตเฮนจ์  อาจเป็นสุสานของชนชั้นปกครองก็เป็นได้
                                         ประติมากรรมรูปสัตว์ในเทพนิยาย(สิ่งลี้ลับ)
สฟิงซ์เป็นประติมากรรมหิน  สร้างตามสัตว์ในความเชื่อของชาวตะวันออก  สฟิงซ์เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจแห่งฟาโรห์  พบเห็นได้ตามพระราชวัง วิหารและพีระมิด  สฟิงซ์หน้าพีระมิดคาเฟรเป็นสฟิงซ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด  โดยมีความยาว 70 เมตร สูง 20 เมตรสร้างขึ้นเมื่อ 2600 ปีก่อนคริสตกาล